เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้กำกับเจมส์ คาเมรอน ได้พูดถึงการดำเนินเรื่อง 3 ชั่วโมง+ ของภาพยนตร์ที่จะออกฉายเร็วๆนี้ของเขา อย่างเรื่อง Avatar: The Way of Water และอธิบายว่าเหตุใดจึงจำเป็นต้องให้เรื่องดำเนินถึง 3 ชั่วโมง
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Total Film คาเมรอนกล่าวถึงความยาวของภาคต่อของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Avatar ปี 2009 ที่รอคอยมานานของเขา ซึ่งยืนยันว่าการตัดสินใจที่จะฉายเป็นเวลา 3 ชั่วโมง 10 นาทีนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นโดยพลการ “เป้าหมายคือการบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างยิ่งบนพื้นฐานอารมณ์” ผู้สร้างภาพยนตร์กล่าว “ผมจะบอกว่าการเน้นในภาพยนตร์เรื่องใหม่เป็นเรื่องของตัวละครมากกว่า มากกว่าในเรื่องราว มากกว่าในความสัมพันธ์ อารมณ์มากกว่า เราไม่ได้ใช้เวลากับความสัมพันธ์และอารมณ์ในภาพยนตร์ภาคแรกมากเท่ากับที่เราทำในภาพยนตร์ภาคที่สอง และเป็นหนังที่ยาวขึ้น เพราะมีตัวละครให้รับใช้มากขึ้น มีเรื่องราวมากขึ้น”
แม้ว่าคาเมรอนจะย้ายจุดโฟกัสของภาพยนตร์ไปที่ตัวละครและการเล่าเรื่อง เขาได้เปรียบเรื่องราวครอบครัวของภาคต่อที่จะมาถึงนี้กับเรื่อง The Sopranos ในการสัมภาษณ์เดียวกันกับ Total Film คาเมรอนกล่าวว่า “คนพูดว่า ‘โอ้พระเจ้า เรื่องราวครอบครัวจากดิสนีย์? สิ่งที่เราต้องการ…’ นี่ไม่ใช่เรื่องราวครอบครัวแบบนั้น แต่เป็นเรื่องราวครอบครัวอย่างนักร้องเสียงโซปราโนเป็นเรื่องราวของครอบครัว”
ผู้กำกับเรือไททานิคยังพูดถึงการตัดสินใจของเขาที่จะยกเลิกบทดั้งเดิมของ Avatar: The Way of Water ซึ่งเขาอธิบายว่าเป็น “นรกแห่งการอ่าน” เขาอธิบายว่าแม้บทภาพยนตร์ที่ไม่ได้ใช้ของภาคต่อจะสนุกสนาน แต่เขารู้สึกว่ามันไม่ได้ผลเพราะมันไม่ได้นำเรื่องราวไปในทิศทางที่ไม่คาดคิด และไม่ได้ “เล่นตามกฎของ Avatar ให้เพียงพอ” สคริปต์ Way of Water เริ่มต้นได้ถูกนำไปใช้ใหม่ใน Avatar: Higher Ground ซึ่งเป็นชุดของนวนิยายกราฟิคที่ทำหน้าที่เป็นภาคก่อนของภาพยนตร์
Avatar: The Way of Water เกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งทศวรรษหลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องแรกในแฟรนไชส์ โดย Jake Sully (Sam Worthington) และ Neytiri (Zoe Saldaña) ได้เลี้ยงดูครอบครัวหนุ่มสาวของพวกเขา ตัวอย่างแรก Avatar 2 ตัวเต็ม เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022 และเน้นที่การย้ายภาคต่อไปสู่สภาพแวดล้อมทางน้ำมากขึ้น ตามมาด้วยการเปิดตัวโปสเตอร์โปรโมตที่เน้นตัวละครใหม่ Lo’ak (Britain Dalton) และ Tsireya (Bailey Bass)