เปิดตัววันแรกในไทย พิชิตอันดับ 1“The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes”กระแสแรงบอกต่อภาคนี้ดีจัด ยิ่งใหญ่สมการรอคอย สำหรับภาพยนตร์แฟนตาซีบล็อกบัสเตอร์สุดฮิต “เดอะ ฮังเกอร์เกมส์” ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์มาแล้วทั่วโลก สู่ “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม” ที่พร้อมพาผู้ชมเข้าร่วมการแข่งขันหฤโหดของเกมล่าชีวิตที่โลกยังไม่เคยเห็น โดยหลังจากภาพยนตร์เข้าฉายก็สร้างกระแสการตอบรับ และเสียงวิจารณ์ที่ต่างชื่นชมอย่างกว้างขวางจากแฟนๆหนังชาวไทย ทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ เปิดตัวแรงอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศ ในวันแรกที่เข้าฉาย (15 พฤศจิกายน) โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยชมแฟรนส์ไชส์ฮังเกอร์เกมส์ก็อินและสนุก ไม่แพ้แฟนหนังและผู้ที่เคยชมของภาพยนตร์ชุดนี้มาก่อน เพราะหลายเสียงต่างรีวิวถึงความเข้มข้น ลุ้นระทึกไปกับการต่อสู้ การแสดงอันทรงพลังของนักแสดง และเรื่องราวจุดเริ่มต้นแห่งสงครามเกมล่าเกมที่ใช้ชีวิตของเหล่าบรรณาการเป็นเดิมพัน
กว่าจะมาเป็นฉากสวยตระการตาบนจอภาพยนตร์ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes ปฐมบทเกมล่าเกม ทีมงานใช้เวลาในการถ่ายทำที่กินเวลาอย่างยาวนานถึง 17 สัปดาห์ เพื่อความสมบูรณ์แบบของอาณาจักรพาเน็ม โดยใช้สถานที่ในประเทศโปรแลนด์และเยอรนนี ทางทีมได้มีการคัดเลือกแต่สถานที่ที่สวยงามของแต่ละประเทศเพื่อให้อาณาจักรพาเน็มมีชีวิตอย่างสมจริง เช่น อาคาร Centennial Hall (ศาลาประชาคมร้อยปี) ณ วรอตสวัฟ, โปแลนด์ ที่ได้ถูกใช้เป็นฉากหลังของเกมล่าชีวิตครั้งที่ 10 ผลงานการออกแบบของ แม็กซ์ เบิร์ก อาคารที่ถูกขึ้นบัญชีในการเป็นมรดกโลก โดยยูเนสโก ซึ่งอูลิ ฮานิช (นักออกแบบงานสร้างชาวเยอรมนี) และทีมศิลป์ของภาพยนตร์ ได้แปลงโฉมอาคารอันงดงามแห่งนี้ให้กลายเป็นสังเวียนเลือดสุดคลั่ง “เรายกเครื่อง เปลี่ยนพื้นใหม่ทั้งหมด ให้มันดูกระด้าง คุกคาม และไม่เป็นมิตร” อูลิ ฮานิช กล่าว
ซึ่งภายในซีนสำคัญที่ทุกคนจะได้เห็นภายในสังเวียนเลือดนี้ เป็นลานประลองขนาดใหญ่และกว้าง แต่ไม่มีที่ให้ซ่อน ไม่เหมือนเกมล่าชีวิตในแบบที่คุ้นเคย เหล่าบรรณาการต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกลายเป็นผู้รอดชีวิตในเกมนี้ “เกมนี้มันเริ่มจากสังเวียนในสนามกีฬา มันเรียบง่าย ฆ่ากันให้ตาย ไม่มีที่ให้ซ่อน” ลอว์เรนซ์ อธิบาย “มันทารุณและน่ากลัว ไม่มีคนปกติที่ไหนอยากดู ไม่มีอะไรมาดึงความสนใจผู้ชม ในความจริงเหล่าบรรณาการต้องเผชิญกับชะตากรรมแสนโหดร้าย” ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ (ผู้กำกับ) กล่าว “และส่วนแรกของเกมเราเรียกมันว่า ‘สังเวียนเลือด’ เธอต้องบู๊ตั้งแต่วันแรกเลย ไม่มีเวลาให้เตรียมใจ เธอกลับบ้านพร้อมรอยช้ำเกือบทุกวัน แต่นั่นมันจุดประกายความเป็นนักสู้ในตัวเธอ” ลอว์เรนซ์ กล่าวถึงสิ่งที่ เรเชล เซกเลอร์ ต้องเผชิญในวันเปิดกล้อง